แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สร้างบล็อก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สร้างบล็อก แสดงบทความทั้งหมด

การสร้างบล็อก และการเขียนบล็อกด้วย Blogger ของ Google (บทความเก่าเมื่อปี 2011)

แจ้งเพิ่มเติม ขณะนี้ทาง Blogspot ได้มีการปรับปรุงรูปแบบใหม่ของการใช้งานแล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับรูปแบบของ Wordpress มีฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ๆ น่าสนใจ ในระหว่างนี้ทุกท่านอาจจะศึกษารูปแบบเก่าไปก่อน เนื่องจากถ้าท่านใดไม่ได้กดเมนูเปลี่ยนแปลงรูปแบบ จะยังคงศึกษารูปแบบเก่าจากในบล็อกผมได้อยู่ ส่วนท่านใดได้เปลี่ยนรูปแบบแล้ว ผมจะพยายามหาเวลาทำเนื้อหาใหม่ อาจจะสักช่วงสงกรานต์นะครับ เพราะตอนนี้งานเยอะมากๆ ครับ

ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่มีอีเมล์ของ gmail.com

สำหรับเพื่อนๆ ที่มีอีเมล์ของ gmail.com แล้ว
  1. 3 วิธีเข้าสู่เว็บไซต์สร้างบล็อกระดับโลกของ Blogger
  2. สมัครเป็นสมาชิก Blogger.com เว็บไซต์เขียนบล็อกระดับโลก
  3. ขอแนะนำเว็บเพจแนะนำของ Blogger เรียก "วิธีใช้ Blogger"
  4. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 1 : มารู้จักเมนูการ "เพิ่มองค์ประกอบหน้า" กันครับ
  5. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 2 : เมนู "ส่วนหัวของหน้า", "คลังบทความของบล็อก" และ "โปรไฟล์"
  6. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 3 : เมนู "โลโก้" "แถบวีดีโอ" และ "Newsreel"
  7. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 4 : เมนู "ป้ายกำกับ" "ฟีด" และ "HTML/จาวาสคริป"
  8. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 5 : เมนู "ข้อความ"
  9. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 6 : เมนู "Adsense" (ที่สร้างรายได้ให้บล็อกคุณ)
  10. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 7 : เมนู "รูปภาพ"
  11. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 8 : เมนู "รายชื่อลิงก์"
  12. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 9 : เมนู "รายการ"
  13. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 10 : เมนู "แบบสำรวจ"
  14. เพิ่มองค์ประกอบหน้า ตอนที่ 11 : เมนู "ลิงก์การสมัคร", "สไลด์โชว์", "ผู้ติดตาม" และ "รายการบล็อก" (ตอนจบ)
  15. แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 1 : การจัดการข้อมูล "ขั้นต้น"
  16. แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 2 : การจัดการข้อมูล "การเผยแพร่" และ "สิทธิ์"
  17. แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 3 : การจัดการข้อมูล "การจัดรูปแบบ"
  18. แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 4 : การจัดการข้อมูล "ข้อคิดเห็น"
  19. แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 5 : การจัดการข้อมูล "เก็บเข้าคลังบทความ"
  20. แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 6 : การจัดการข้อมูล "ฟีดของไซต์", "อีเมล" และ "OpenID" (ตอนจบ)
  21. ส่วน "รูปแบบ"/ "องค์ประกอบหน้า"/ "ชื่อเว็บบล็อก" เรื่องการจัดการชื่อเว็บบล็อก
  22. ส่วน "รูปแบบ"/ "เลือกแม่แบบใหม่" หรือเลือกเทมเพลทใหม่ เพื่อเปลี่ยนแบบของบล็อก
  23. ส่วนการจัดการ "การเขียนบทความ" หรือ การเขียนบล็อก
Gadget หรือ ของตกแต่งบล็อก สำหรับบล็อกขอคุณ
  1. Gadget (ของตกแต่งบล็อก) ตอนที่ 1 : flag counter หรือแสดงธงชาติของผู้เยี่ยมชมบล็อก
  2. Gadget (ของตกแต่งบล็อก) ตอนที่ 2 : hit stat counter หรือการแสดงสถิติของผู้เยี่ยมชมบล็อก

หวังว่าเพื่อนๆ คงได้รับประโยชน์กันนะครับ

"สมุดเยี่ยม" สำหรับ Blogger Build ครับ

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ที่ต้องการให้กำลังใจ หรือมีคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับบทความในแต่ละตอนที่เขียน ผมก็จะหาคำตอบมาให้ หรือจากผู้รู้ท่านอื่นๆ นะครับ ก็สามารถเขียนใส่มาใน "แสดงความคิดเห็น" ด้านล่างนี้เลยนะครับ

ส่วนการจัดการ "การเขียนบทความ" หรือ การเขียนบล็อก

สวัสดีครับ เพื่อนๆ เรามาเริ่มเขียนบทความกันดีกว่าครับ จริงๆ แล้วก็คือพิมพ์บทความนั่นละครับ แต่ใช้คำว่า "เขียน" ก็สื่อไปในทางรูปแบบเก่าที่เวลาเราจะเขียนไดอารี่ หรือประสบการณ์ต่างๆ คงต้องเขียนกันเป็นหลัก ปัจจุบันก็คงพิมพ์เสียส่วนใหญ่ แต่ผมเคยได้ยินคุณบอย โกสิยพงษ์ ไม่มีเวลาพิมพ์ ใช้วิธีเขียนเป็นฉบับ ร่างให้เจ้าหน้าที่ช่วยพิมพ์ให้เหมือนกัน สรุปว่า ก็ความหมายเดียวกันครับ (เพราะไม่ได้สื่อในรูป คำกิริยา)

การเขียนบทความก็คงไม่ยากเย็นอะไร ก็พิมพ์ลงไปนะครับ ในพื้นที่ ที่ระบบจัดเตรียมไว้ให้ แล้วก็มีการใส่รูปภาพเป็นส่วนใหญ่ หรือคลิ๊ปวีดีโอ ดังนั้น ก่อนถึงการเขียนบทความ เราลองมารู้จักกับเมนูต่างๆ ในหน้าการจัดการ "การเขียนบทความ" หรือ "สร้างบทความ" กันครับ


คงต้องเริ่มจาก ผมจะแนะนำการเข้าสู่หน้า "สร้าง หรือ เขียนบทความ" 3 วิธี ง่ายๆ นะครับ คือ
1. กดที่เมนู "บทความใหม่" ที่อยู่ด้านขวามือบนสุด ในหน้าที่เว็บบล็อกที่เราเข้ามาผ่านวิธีการแบบ Log in เข้ามานะครับ


2. เมื่อเวลาเราเขียนบทความเสร็จแล้ว และกดบันทึก ระบบจะพาเราไปที่หน้า "แก้ไขบทความ" ให้เรากดที่เมนู "สร้างบทความใหม่" ตามภาพตัวอย่างข้างบน

3. ที่หน้าการจัดการ "รูปแบบ" ที่เมนูด้านซ้ายบน ให้กดที่เมนู "การส่งบทความ"

ทั้ง 3 วิธี ก็จะมาที่หน้าเว็บการจัดการในการสร้าง หรือเขียนบทความ ดังภาพตัวอย่าง งั้นมาดูเมนูต่างๆ กันครับ

เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจในคำอธิบายง่ายๆ ผมจึงกำหนดเป็นตัวเลขกำกับแต่ละเมนูแทน เริ่มจาก
ชื่อเรื่อง คือ การสร้างชื่อบทความ หรือหัวข้อของบทความที่เราเขียนก็ได้นะครับ
หมายเลข 1 คือ การเลือกแบบของตัวอักษร ถ้าเรากดที่ลูกศรลง ก็จะแสดงแบบอักษร การใช้งานแบบตัวอักษรนี้ ก็สามารถทำได้ 2 วิธีคือ ลากเม้าส์ครอบคลุมพื้นที่ของตัวหนังสือที่ต้องการเปลี่ยนแบบตัวอักษร แล้วกดเลือกแบบได้เลย หรือ กดเลือกแบบตัวอักษรเลย ก่อนพิมพ์บทความ ครับ

หมายเลข 2 คือ การเปลี่ยนขนาดของตัวอักษร ซึ่งมีให้เลือก 5 ขนาด เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมครับ Normal คือขนาดปกติ ผมมักใหญ่ ขนาดใหญ่ (Large) เมื่อเวลาต้องเน้นคำ หรือประโยค เด่นๆ ครับ
หมายเลข 3 ที่เป็นตัว b หนาๆ เป็นการทำให้ตัวหนังสือที่เราต้องการกลายเป็นตัวหนา
หมายเลข 4 ที่เป็นตัว i เอียงๆ จะทำให้ตัวหนังสือที่เราต้องการกลายเป็ษนตัวเอียง

หมายเลข 5 เป็นการเลือกสี ให้กับตัวอักษร ถ้าเราใช้อย่างเหมาะสม ก็จะเกิดความสวยงามของบทความ น่าอ่าน หรือใช้เน้นคำ ร่วมกับขนาดตัวอักษรบ้างก็ยังได้ ส่วนตัวผมแล้ว ผมยังใช้สีตัวอักษรมาแสดงอารมณ์ ความรู้สึกของคำ หรือประโยคนั้นๆ ด้วย เช่น ถ้าบทความนั้นผมเขียนถึง สิ่งที่ถูก กับ สิ่งที่ผิด ผมก็จะใช้สีถึงสิ่งที่ถูกเป็นสีน้ำเงิน ส่วนสิ่งที่ผิด ผมก็จะใช้สีแดง แทนครับ

หมายเลข 6 เป็นเมนูการเชื่อมโยงลิงก์ ให้กับคำ หรือประโยค เช่นเมื่อกล่าวถึง ชื่อ ปรีดา ลิ้มนนทกุล ผมก็เชื่อมโยงลิงก์ หรือ URL http://preedaroom.blogspot.com/ ไปใส่ในช่อง URL ตามภาพตัวอย่างข้างบนนะครับ กด OK ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการเชื่อมโยงลิงก์ (ตามตัวอย่างชื่อผมครับ)
หมายเลข 7 เป็นการจัดลักษณะการวางของตัวหนังสือ ว่า จะให้ ชิดซ้าย, ตรงกลาง, ชิดขวา และ เฉลี่ยเต็มพื้นที่
หมายเลข 8 เป็นการจัดลำดับของข้อความ หรือประโยค เป็นข้อๆ เรียงตามเลข หรือ มีจุดนำหน้า และการยกข้อความทั้งย่อหน้า เพื่อนๆ ต้องลองเล่นข้อ 7 และ 8 เอง เวลาเขีนบทความ ก็จะเกิดความชำนาญในการใช้งานครับ

หมายเลข 9 เป็นการเพิ่มรูปภาพในบทความ โดยสามารถเพิ่มภาพได้ทั้งจากไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเอง (Browse) หรือจาก URL จากนั้นเลือกรูปแบบ การวางรูปซ้าย-กึ่งกลาง-ขวา (ส่วนไม่มีนั้น ผมก็ไม่เคยใช้ครับ) ส่วนด้านข้างบริเวณ "ขนาดรูปภาพ" มีให้เลือก ขนาดเล็ก-ปานกลาง-ขนาดใหญ่ ส่วนช่องที่ให้ติ๊กหน้าช่อง "ใช้เลย์เอาต์นี้ทุกครั้งหรือไม่" ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานนะครับ


หมายเลข 10 เป็นการเพิ่มวีดีโอในบทความ (ขอสารภาพว่า ยังไม่เคยใช้งานเลยครับ) แต่น่าจะใช้งานเหมือนกันคือ กด Browse เพื่อโหลดไฟล์วีดีโอ ตั้งชื่อ และก็บันทึก (ถ้าทดลองใช้จะกลับมาอัพเดทอีกครั้งครับ)
หมายเลข 11 เป็นการลบการจัดรูปแบบจากส่วนที่เลือก ซึ่งผมยังไม่เคยใช้งานครับ
หมายเลข 12 เป็นเมนู Type in Hindi ที่ไม่กล้าใช้งานครับ จึงยังไม่เคยใช้เลย กลัวว่าบทความจะถูกเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นครับ


มาถึงหมายเลข 13 เป็น เมนู "แสดงตัวอย่าง" ให้เพื่อนๆ เมื่อลองพิมพ์บทความลงไปแล้ว ทดลองกดที่เมนู ระบบก็จะแสดงตัวอย่างบทความให้ดูครับ ดังภาพตัวอย่างข้างล่างครับ


ก่อนหน้านี้ ที่ผมอธิบายเมนูต่างๆ ของการเขียนบทความนั้น ถ้าเพื่อนๆ สังเกตจะเห็นว่าเป็นส่วนการจัดการ "การเขียน" โดยดูได้จากเมนูขวามือ ที่ผมวงไว้ว่า A คราวนี้มาถึงเมนู "แก้ไข Html" ที่ผมวงไว้ว่า B เป็นส่วนที่เราสามารถวางโค้ด Html นะครับ ทั้งโค้ด หรือ Embed เช่น จาก youtube.com หรือ daraoke.com (ผมจะเขียนบทความขยายความในส่วนนี้ รวมทั้งส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในบทความใหม่ ต่อๆ ไปนะครับ) พื้นที่นี้สามารถคีย์ตัวอักษรปกติได้ และใช้งานตามเมนูเท่าที่มีให้นะครับ แต่ถ้าจะใช้ฟังก์ชั่นเมนูมากกว่านี้ ต้องข้ามไปใช้ในส่วนการจัดการ "การเขียน" แทนครับ


มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่จะบอกเพื่อนๆ ว่า ถ้าสังเกตดีๆ เวลาเราพิมพ์บทความไปได้สักระยะหนึ่ง (พักใหญ่เหมือนกันครับ) ตรงพื้นที่ ที่ผมวงไว้ว่า "ว่าง" นั้น จะมีข้อความขึ้นแสดงว่า มีการบันทึกแบบร่าง ดังตัวอย่างภาพข้างล่างนะครับ
และก่อนจะจบ ก็ต้องแนะนำส่วนสุดท้ายคือ ช่องการใส่คีย์เวิร์ด ที่เรียกว่า Tag ที่มีความสำคัญมากนะครับ เรียกได้ว่าเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้บทความ หรือบล็อกของเราติดอันดับ Google ได้ง่ายขึ้นครับ จบแล้วครับ สำหรับบทความตอนนี้ ยาวหน่อยนะครับ
.
ขอบคุณครับ

ส่วน "รูปแบบ"/ "องค์ประกอบหน้า"/ "ชื่อเว็บบล็อก" เรื่องการจัดการชื่อเว็บบล็อก

สวัสดีครับ เพื่อนๆ บทความตอนนี้ สั้นๆ ง่ายๆ เป็นการเพิ่มเติม หรือปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับ "ชื่อเว็บบล็อก" และ คำอธิบายของเว็บบล็อก ซึ่งอยู่บริเวณด้านบนสุดของเว็บบล็อก ผมขอยกตัวอย่างของบล็อกนี้เลยนะครับ จะได้ดูง่ายๆ ครับ

เช่นเดิมนะครับ เข้ามาที่ส่วนการจัดการ "รูปแบบ"


ดูที่ส่วน "องค์ประกอบ" ที่ชื่อเรื่อง ตามที่ผมวงรี (ไม่ค่อยเรียบร้อย) จากนั้นกดที่เมนู "แก้ไข" นะครับ


เมื่อกดแล้วจะเห็นหน้าต่าง "กำหนดค่าส่วนหัว" ขึ้นมา คือก็หมายถึงว่า หัวเรื่อง หรือชื่อเรื่อง หรือชื่อบล็อก ความหมายเดียวกันครับ ผมจะเริ่มอธิบายทีละส่วนนะครับ


  • ชื่อบล็อก ก็ความหมายตรงตัว เราสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เท่าที่เราอยากจะเปลี่ยน แต่ผมก็แนะนำว่าอาจจะต้องคงไว้ซึ่งบุคคลิกของบล็อกด้วยนะครับ ที่สำคัญก็คือ ชื่อบล็อก นั้นมีผลต่อการค้นหาของระบบ spider robot หรือ spider network ของ Google ด้วย ถ้าเพื่อนๆ อยากให้เว็บบล็อกของเราติดอันดับในการค้นหาโดยระบบของ Google การตั้งชื่อบล็อกถือว่ามีความสำคัญมากทีเดียวครับ
  • คำอธิบายบล็อก ก็อยูที่ว่าเราอยากจะสื่อความหลายอะไร ตัวตนของบล็อกเรา ความรู้สึก หรือการขยายความชื่อของบล็อก ก็ได้ ลองๆ เล่นดู เพราะว่าสามารถแก้ไขได้ตลอดครับ สบายๆ
  • รูปภาพ ในส่วนนี้ผมอยากให้เพื่อนๆ ดูที่การจัดวางก่อน ว่าถ้าเราจะใส่รูปภาพที่ส่วนชื่อองบล็อกเรานั้น ตองคำนึงเรื่องการจัดวาง และเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นว่า ตัวหนังสือเราเป็นสีขาว พื้นสีน้ำเงิน แต่เรากับเลือกรูปภาพสีขาว ก็จะไม่เห็นชื่อบล็อก และคำอธิบาย เหมือนกัน ในส่วนการจัดวางก็เลือกดูนะครับว่า ถ้าเราใส่ภาพแล้วอยากให้ภาพอยู่ "เบื้องหลังชื่อ และคำอธิบาย" หรือว่าภาพไป "แทนที่ชื่อ และคำอธิบาย" ซึ่งก็แนะนำว่าให้ติ๊กที่ช่อง "ลดขนาดให้พอดี" จากนั้นก็สามารถใส่ไฟล์รูปภาพจากทั้งแบบเลือกจากไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของเรา (Browse) หรือจาก URL ของภาพนั้นก็ได้ครับ
เช่นเดิมนะครับ เมื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลแล้ว ก็ต้องกดเมนู "บันทึก" สีส้ม แล้วก็กดที่เมนู "ดูบล็อก" ในหน้าส่วนการจัดการ "รูปแบบ" ซึ่งก็อยู่ข้างๆ เมนูรูปแบบ นั่นละครับ ก็จะเห็นหน้าเว็บบล็อกของเราหน้าแรกนะครับ


ผมขยายเฉพาะส่วนหัว หรือชื่อบล็อก มาให้เพื่อนๆ ดูกัน ก็ง่ายๆ นะครับ จบแล้วครับ สำหรับบทความตอนนี้ครับ
.

Gadget (ของตกแต่งบล็อก) ตอนที่ 2 : hit stat counter หรือการแสดงสถิติของผู้เยี่ยมชมบล็อก

สวัสดีครับ เพื่อนๆ บทความตอนนี้ เป็นการนำโค้ดตกแต่งบล็อกมาให้เพื่อนๆ ได้เอาไปใช้งานกัน กับบทความส่วน Gadget หรือของตกแต่งบล็อก ตอนที่ 1 ที่ผมแนะนำการแสดงสถิติแบบธงชาติ ซึ่งก็มีจุดเด่นอีกแบบหนึ่ง กับของ HitStat นี้ก็เช่นกันครับ มีจุดเด่นเรื่องรายงานการเข้าชม หรือสถิติ นั่นเองได้ดีพอสมควร ทำให้สามารถนำข้อมูลไปปรับปรุงเว็บบล็อก ได้เช่นกันครับ

วิธีเข้าใช้งานเพื่อสร้างตัววัดสถิติผมมีแนะนำ 2 วิธี คือ เข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.histats.com/ แต่ส่วนตัวผมจะใช้วิธีไปที่เว็บบล็อกของตัวผมแล้วกดที่ แบนเนอร์ของ hitatat ดังภาพข้างบนตัวอย่างครับ

ภาพนี้เป็นหน้าตาของเว็บเมื่อผมกดที่แบนเนอร์ ซึ่งไม่ใช่หน้าหลัก ส่วนเพื่อนๆ ท่านใดถ้ากดลิงก์ตาม URL ที่ผมให้ไว้ก็จะไปที่หน้าหลักครับ แต่ว่าค่าเท่ากัน เพราะว่าต้องกดที่เมนู "REGISTER" อยู่ดีครับ

กดเมนู "REGISTER" ตามภาพครับ

เมื่อกดแล้วจะเห็นหน้าเว็บดังนี้ แล้วผมจะอธิบายทีละส่วนต่อไปครับ

เนื่องจากการเริ่มใช้งานก็ต้องสร้างบัญชีให้ตัวเองก่อนในส่วนของ Account Info ก็กรอก อีเมล์ของตัวเองที่ใช้งานใน 2 ช่องแรก mail, mail confirm จากนั้นกรอก password (มาถึงตรงนี้ ผมก็ขอแนะนำเพื่อนๆ ว่า ปัจจุบันเรามีการใช้งานอินเตอร์เน็ตค่อนข้างมาก แต่ละเว็บก็ให้สร้างบัญชีทั้งนั้น ดังนั้น เพื่อนๆ ควรมีการจัดการ password อย่างเป็นระบบด้วยนะครับ เพราะผมเองเคยมั่วมาแล้ว ปัจจุบันนี้ ผมไม่มั่ว ไม่ต้องบันทึก จำได้ทุกเว็บไซต์แล้วครับ) ในช่อง password, password confirm ซึ่งเพื่อนๆ จะเห็นว่ามันง่ายมากเลย ไม่มีอะไรยุ่งยาก

ต่อไปเป็นส่วน Site Info
  • ในช่องแรก ต้องนำ URL ของเว็บบล็อกที่เราสร้างมาใส่ไว้เช่น http://bloggerbuild.blogspot.com/ เป็นต้น ต้องมี http:// ขึ้นต้นนะครับ
  • ช่อง 2 คือ title หรือชื่อเว็บบล็อก (แต่ส่วนตัวของผม ผมก็อบเอา URL วางเลยครับ เพราะว่าไม่ได้สำคัญอะไร ผมสังเกตดูว่าไม่เห็นมีกลับเอามาใช้งานให้เกิดประโยชน์อะไร แต่ถ้าเพื่อนๆ จะใส่ชื่อให้เรียบร้อยก็ดี นานาจิตตังครับ)
  • ช่อง 3 คือ description แปลว่ารายละเอียดของบล็อก ผมใส่ URL เหมือนเดิม เหตุผลเหมือนข้อ 2 เพื่อนๆ จะกรอกก็ได้ครับ
  • ช่อง 4 page views start value คือ การแสดงจำนวนว่ามีคนคลิ๊กอ่านเนื้อหาของเรากี่หน้าแล้ว มีให้เราใส่ตัวเลขหลอกชาวบ้านว่า เว็บบล็อกเรามีคนเข้ามาดูเยอะมากๆ ใส่เป็นล้านคนก็ได้นะครับ แต่ของผมไม่ใส่เลขอะไรเลย เริ่มต้นที่ศูนย์ครับ (โดยปกติค่าของ page views ต้องสูงกว่า visitors อยู่แล้วครับ)
  • ช่อง 5 visitors start value คือ การแสดงจำนวนว่ามีคนคลิ๊กเข้ามาที่บล็อกกี่คนแล้ว และให้เราเริ่มใส่ตัวเลขเริ่มต้นได้ แต่ผมก็ไม่ใส่อะไรเลข จึงเริ่มที่ศูนย์อีกเช่นกันครับ
ต่อไปเป็นส่วน Time Zone ที่ควรให้ความสำคัญนะครับ ไม่งั้นอาจเกิดอาการหงุดหงิดได้เมื่อเห็นยอดสถิตหลังเที่ยงคืนแล้วไม่เริ่มต้นนับใหม่ในแต่ละวัน

ให้เลือกที่ข้อ 2 Select your time zone จะง่ายที่สุด แต่เพื่อนๆ จะเลือกเวลาจากข้อ 1 หรือ 3 ก็ได้แล้วแต่ถนัดกันครับ ขอให้มี Bangkok ขึ้น เป็นใช้ได้ ตามภาพตัวอย่างครับ


ส่วนต่อมา คือ การเลือกข้อกำหนดของบล็อก ชนิด เลือก blog, Category ผมเลือก Others, Language เลือก english ตามของเดิม และที่ตำแหน่งติ๊กถูกหลัง NOT public stats ผมไม่ไปยุ่งอะไร ครับ

จะเกือบเสร็จแล้วครับในหน้านี้ ที่ตำแน่งข้อ 1 นั้นส่วนใหญ่จะมีติ๊กเครื่องหมายถูกอยู่แล้ว ก็กดที่ตำแหน่ง 2 คือ Continue ได้เลย จะได้ไปสู่ขั้นตอนต่อๆ ไปครับ

  • ในหน้าต่อไป จะมีให้เราเลือกรูปแบบของแบนเนอร์ที่โชว์สถิติครับ เพื่อนๆ สามารถเลือกได้ตามชอบใจ ผมมักเลือกแบบที่มี 4 แถว เพราะใช้งานง่าย คนดูเข้าใจง่าย
  • เมื่อกดปุ่ม Continue จะไปหน้าที่เลือกสี และแบบที่ชอบใจ จากที่เลือกหัวข้อหลักมาแล้ว ผมมักเลือกสีที่เข้ากับสีพื้น หรือสีหลักของบล็อกครับ เช่น สีพื้นสีขาว แต่หัวสี หรือแถบข้างออกโทนน้ำเงิน ผมก็จะเลือกแบนเนอร์แสดงสถิติเป็นสีน้ำเงิน เป็นต้น
  • เมื่อกดปุ่ม Continue จะไปหน้าที่แสดงโค้ดแบบต่างๆ ซึ่งแบบแรกเป็นโค้ด HTML ซึ่งผมใช้โค้ดนี้ ผมก็ copy ไปวางในองค์ประกอบสำหรับ HTML/ Javascript ตามตัวอย่างในของตกแต่งบล็อกตอนที่ 1 ได้เลยนะครับ (ที่ลิ้งค์นี้ http://bloggerbuild.blogspot.com/2008/04/19.html ด้านล่างของบทความครับ)
การใช้งาน hitstat นั้นยังมีส่วนที่เพิ่มเติม และแก้ไขข้อมูล รวมทั้งการดูสถิติด้วยครับ ซึ่งผมจะนำมาแนะนำในโกสต่อๆป แต่ถ้าเพื่อนๆ ลองคลิ๊กไปคลิ๊กมา กดเข้าไปดูของตัวเองที่ได้วางแบนเนอร์แล้ว สักพักก็จะใช้งานเพิ่มเติมได้เองครับ

แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 6 : การจัดการข้อมูล "ฟีดของไซต์", "อีเมล" และ "OpenID"

สวัสดีครับ เพื่อนๆ บทความตอนนี้ก็ 3 เรื่องรวดของ "การตั้งค่า" เลยนะครับ คือ "ฟีดของไซต์", "อีเมล" และ "OpenID" ก็เท่ากับว่าตอนนี้ก็จบชุดบทความ "การตั้งค่า" กันเลยนะครับ



เริ่มจากส่วนการจัดการ "ฟีดของไซต์" ที่ผมขอสารภาพกับเพื่อนๆ ก่อนเลยนะครับว่า ไม่รู้เรื่อง เลยครับ คือยังไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเรียนรู้แล้วทราบ จะรีบมาแนะนำนะครับ ดังนั้นส่วน "ฟีดของไซต์" ก็ขอข้ามไปเลย เพียงแต่ว่า ผมก็ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไร มายังไง ก็เดิมๆ อย่างนั้นครับ
.

ต่อไปมาที่ส่วนการจัดการ "อีเมล" ก็มีเท่าที่เห็นนะครับ แค่ 2 หัวข้อ คือ
  • ที่อยู่ BlogSend : คือเมื่อเวลาเราพิมพ์บทความ แล้วสั่งเผยแพร่ หรือเรียกว่า "ส่งบทความ" ก็ให้ระบบแจ้งการเผยแพร่ข้อมูลมาให้เจ้าของบล็อกทางอีเมล์ ที่สำคัญสามารถส่งบทความที่เผยแพร่ให้ได้ถึง 10 อีเมล์ ซึ่งผมจะใส่อีเมล์ของตัวเอง ทุกบล็อกที่สร้างเลยครับ
  • ที่อยู่ Mail-to-Blogger : ส่วนนี้ผมไม่เคยใช้เลยนะครับ แต่พอจะเดาๆ ให้ได้อ่านกันว่า เป็นการให้เราใส่อีเมล์ที่เป็น @blogger.com ดังนี้ Preeda.Limnontakul.----------@blogger.com ผมจึงเดาว่า คงจะสำหรับคนที่ไม่มีอีเมล์ของ gmail ระบบจึงสร้างอีเมล์ขึ้นมาใหม่ให้อัตโนมัติ ส่วนราละเอียดส่วนอื่นของหัวข้อนี้ ผมก็ยังไม่เคยใช้เหมือนกันครับ อาจต้องทดลองแล้วมาแนะนำเพื่อนๆ กันใหม่อีกครั้งนะครับ
    .
เวลาผมกรอกข้อมูลอีเมล์ ระบบของ Blogger ก็ดีนะครับ สมัยก่อนไม่มีอย่างนี้ เดี๋ยวนี้จะขึ้นลิสงต์ (list) ลำดับรายชื่ออีเมล์ตามลำดับตัวอักษรมาให้เรากดเลือกได้เลยครับ ตาที่มีพื้นที่สีฟ้าขึ้นแสดงให้ดูตามภาพครับ
.
.
เช่นเคยนะครับ กรอกอีเมล์ที่ต้องการให้ระบบส่งแจ้งการเผยแพร่บทความทางอีเมล์เรียบร้อยแล้ว (หรือข้อมูลอื่นๆ) ก็อย่าลืมกดเมนูสีส้ม "บันทึกการตั้งค่า" แล้วเห็นข้อความบนกรอบสีเหลืองเข้มว่า "บันทึกการตั้งค่าเสร็จสมบูรณ์" ก็ถือว่าเรียบร้อยนะครับ
.
.

มาถึงการจัดการส่วนสุดท้าย คือ "OpenID" ก็เป็นเพราะว่า ในต่างประเทศเริ่มนิยมที่จะทำให้ประชากรที่ใช้อินเตอร์เน็ตนั้นสามารถใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น จึงมีแนวคิดรวมตัวกันแล้วให้สมาชิกของแต่ละเว็บไซต์ สามารถใช้ user name และ password เดียวร่วมกันได้ ผมจึงเข้าใจว่า ในส่วนนี้คงเป็นข้อตกลงร่วมกันในระดับบริษัทแม่ ที่ต้องการเชื่อมโยงการใช้งานร่วมกัน จึงมีส่วนการจัดการนี้ขึ้นมาครับ
.
.
ลองมาดูรายละเอียดกันสักนิดหน่อย (ซึ่งผมก็ไม่ค่อยทราบรายละเอียดมฝากเท่าไหร่นะครับ) ถ้าเพื่อนๆ กดที่ลิงก์ "ความคิดเห็น" มันก็จะไปที่หน้าการจัดการ "ข้อคิดเห็น" (ในตอนที่ 4 ของ "การตั้งค่า") ซึ่งก็จะไปให้ความสำคัญในเรื่องการกำหนด "ผู้แสดงความคิดเห็น" ที่ผมแนะนำว่า ควรติ๊กหน้าวงกลมที่ "ทุกคน" ถ้ากดลิงก์ "เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ OpenID" ก็จะไปที่เว็บไซต์ของ OpenID ที่มี URL ดังนี้ครับ http://openid.net/what/ จบแล้วนะครับสำหรับหน้า "การตั้งค่า" หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ พบกับเนื้อหาในบทความต่อๆ ไปนะครับ
.
.
.

แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 5 : การจัดการข้อมูล "เก็บเข้าคลังบทความ"

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ใกล้จบแล้วนะครับ สำหรับบทความของ "การตั้งค่า" ตอนนี้เรามาพบกับส่วนการจัดการ "เก็บเข้าคลังบทความ" กันครับ ตอนนี้ไม่ยาวครับ แป๊บเดียวจบครับ
.
.
เห็นไหมครับมีนิดเดียวเองครับ แค่ 2 หัวข้อเองครับ
  • ความถี่ของการเก็บเข้าคลังบทความ : เป็นการบันทึกจำนวนของบทความเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือนครับ ซึ่งเดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างการใช้งานในส่วนนี้ ในส่วนการแก้ไขในหน้า "รูปแบบ" นะครับ
  • เปิดใช้หน้าบทความหรือไม่ : ในส่วนนี้ให้ใส่ "ใช่" ไปเลยนะครับ เพราะจะสัมพันธ์กับการแสดงบทความ เมื่อมีคนคลิ๊กเพื่อดูบทความเป็นตามความถี่ ที่เรากำหนดไว้ เช่น รายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน
.

ผมนำภาพตัวอย่างให้เห็นการเลือกความถี่นะครับ
.
.

คราวนี้ลองดูอีกวิธี ที่เหมือนกับส่วนการจัดการของการ "เก็บเข้าคลังบทความ" (อย่างที่ผมเคยบอกว่า ระบบการสร้างบล็อกของ Blogger นั้น มีข้อเด่นหลายข้อ หนึ่งในนั้นคือ ในเรื่องการจัดการเดียวกัน สามารถทำได้หลายวิธีครับ) เพื่อนๆ ก็ไปที่หน้า "รูปแบบ"
.
.

ถ้าตรวจสอบง่ายๆ ว่าส่วน "เก็บเข้าคลังบทความ" นั้น ได้ถูกใช้งานในบล็อกแล้วหรือยัง ให้ไปที่การ "เพิ่ม Gadget" หรือ "เพิ่มองค์ประกอบใหม่" เลื่อนไปดูที่แบนเนอร์ "คลังบทความของบล็อก" แล้วสังเกตที่มุมบนขวามือ ถ้าเห็นว่า "เพิ่มแล้ว" แสดงว่าส่วนนี้ถูกใช้งานในบล็อกแล้ว
.
.


ก็ให้กลับไปดูที่หน้า "รูปแบบ" จะเห็นส่วน "คลังบทความของบล็อก" (หรือเพื่อนๆ อาจมาดูที่หน้านี้ได้เลย ไม่ต้องไปดูแบนเนอร์ที่การ "เพิ่ม Gadget" ก็ได้ครับ) ให้กดที่เมนู "แก้ไข" ตามลูกศรที่ชี้นะครับ
.
.



จะเห็นหน้าต่าง "ตั้งค่าคลังข้อมูลบล็อก" โดยดูที่สไตล์ จะเห็นว่ามีให้เลือก 3 แบบ คือ 1. ลำดับชั้น เมื่อคลิ๊กในช่องวงกลมจะเห็นตามตัวอย่างข้างบนนะครับ
.
.
ถ้าคลิ๊กหน้าข้อ 2. รายการแบบเรียบ จะเห็นตามภาพข้างบนในพื้นที่สีขาว เรียบจริงๆ ครับ แต่ทั้งแบบที่ 1 และ 2 นั้น ผมจะไม่ใช้งานเลย เพราะว่าบล็อกของผมโดยปกติ แถบด้านข้าง (Side Bar) จะยาวอยู่แล้ว ผมจึงเลือกแบบที่ 3 มากกว่าครับ
.
.
เพราะว่าแบบที่ 3. เมนูแบบเลื่อนลง นั้นจะเป็นแค่ช่องแถบเดียว เหมือนตัวอย่างที่เห็นในพื้นที่สีขาวนะครับ

ผมนำตัวอย่างมาให้ดู ว่าถ้าเราติ๊กที่ลูกศรชี้ลง (หรือเรียกว่า drop down list) ก็จะเห็นเป็นรายเดือน
.
.
และนี่ก็เป็นตัวอย่างที่เวลาผมใช้งานในบล็อกของผมครับ จะเห็นว่าที่หัวข้อ "คลังบทความของบล็อก" นั้นจะสั้นๆ มีแค่แถวเดียวนะครับ ผมจึงชอบใช้งานในลักษณะนี้มากครับ อีกเรื่องนะครับ พื่อนๆ อย่าลืมนะครับ เวลาที่เรามีการแก้ไขข้อมูลอะไรก็ตาม ก็ควรจะกดเมนูสีส้ม "บันทึก" ด้วยทุกครั้งนะครับ ตอนหน้าพบกับ "การตั้งค่า" ส่วน "ฟีดของไซต์", "อีเมล์" และ "OpenID" รวดเดียว 3 เรื่อง กันเลยนะครับ
.
ขอบคุณครับ
.
.

แนะนำส่วน "การตั้งค่า" ตอนที่ 4 : การจัดการข้อมูล "ข้อคิดเห็น"

สวัสดีครับ เพื่อนๆ พบกับตอนที่ 4 เป็น "การตั้งค่า" ในส่วน "ข้อคิดเห็น" หรือในส่วน "แสดงความคิดเห็น" บางเว็บไซต์ก็เรียก "Comment" ก็คือเป็นส่วนที่เวลาเราได้ไปอ่านเจอบทความ แล้วเราต้องการแสดงความคิดเห็น จากนั้นก็พิมพ์แสดงความคิดเห็น หรือได้อ่านแสดงความคิดเห็นของท่านอื่นๆ เป็นต้น

หน้าตาของหน้าเว็บที่ ก็เหมือนกับ 3 ตอนแรกของ "การตั้งค่า"


  • ข้อคิดเห็น : เป็นระบบที่ต้องการให้ผู้สร้างบล็อกนั้นเลือกว่า เวลามีคนแสดงความคิดเห็น แล้วจะให้ "แสดง" หรือ "ซ่อน" ซึ่งก็ควรจะเลือก "ซ่อน" นะครับ เพราะเราควรจะให้เกียรติผู้อ่าน ถ้านึกถึงตัวเรา เวลาไปแสดงความคิดเห็นทีไหน พอพิมพ์เสร็จ ก็ไม่แสดงออกมา คงจะหงุดหงิดแย่เลย
  • ใครสามารถแสดงความคิดเห็น : เป็นส่วนจัดการ ผู้แสดงความคิดเห็น ว่ามาจากไหน ซึ่งมี 4 ข้อย่อย คือ ทุกคน (ผมแนะนำว่า ควรเลือกที่ข้อนี้นะครับ), ผู้ใช้ที่จดทะเบียน (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพันธมิตรกับทาง Google), ผู้ใช้ที่มีบัญชี Google (เฉพาะผู้ใช้ Blogger เท่านั้น) และ เฉพาะสมาชิกของบล็อกนี้ (ก็คือทั้งเฉพาะผู้ใช้ Blogger และเป็นผู้ที่สร้างบล็อกเป็นคนเชิญ หรือเป็นสมาชิกบล็อกนั้น) ซึ่งตัวอย่างนี้ผมจะยกตัวอย่างตอนท้ายบทความนะครับ
  • การจัดวางฟอร์มความคิดเห็น : เป็นการโชว์ส่วนการแสดงความคิดเห็น เมื่อผู้อ่านต้องการจะแสดงความคิดเห็นดังนี้ เต็มหน้า (จะซ่อนหน้าต่างการแสดงความคิดเห็นไว้ เมื่อกดลิงก์ที่คำว่า "ความคิดเห็น" ที่วางอยู่ด้านล่างสุดของบทความ ซึ่งจะโชว์หน้าต่างมาเต็มหนาจอ), หน้าต่างป๊อปอัป (วิธีแสดง "ความคิดเห็น" ใช้งานเหมือนกับแบบ เต็มหน้า เพียงแต่หน้าต่างที่โชว์ขึ้นมาจะเป็นหน้าต่างป๊อปอัป ขนาดเล็กไม่ใหญ่เกินไป) และ วางไว้ใต้บทความ (จะมีหน้าต่างการแสดงบทความที่ล่างสุดของบทความเลย ดังแสดงในภาพข้างล่างนะครับ) ส่วนตัวผมจะเลือก วางไว้ใต้บทความ นะครับ เพราะทำให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ทันทีครับ จึงสะดวกกับผู้อ่านเมื่อต้องการแสดงความคิดเห็นครับ


  • ความคิดเห็นเริ่มต้นสำหรับบทความ : ส่วนนี้ผมก็งงๆ นะครับ ยังไม่เคยสังเกตเลยว่ามีผลอย่างไรในการเขียนบทความ จึงอยากบอกเพื่อนๆ ว่า เลือกอะไรก็ได้นะครับ แต่ก็คือ ผมก็ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไรกับมาตรฐานเดิมที่ทาง logger ได้เซ็ทอัพไว้นะครับ จึงเลือก "บทความใหม่มีความคิดเห็น"
  • ลิงก์ย้อนกลับ : เป็นการแสดงถึง ลิงก์ที่สามารถย้อนกลับ เดินหน้าได้ (อยู่ล่างสุดใต้หน้าต่างการแสดงความคิดเห็นอีกที) ควรเลือก "แสดง" นะครับ เพราะว่า จะทำให้บล็อกทสี่สร้างดูมีฟังก์ชั่นที่น่าใช้งาน ครับ
  • ค่าเริ่มต้นของลิงก์ย้อนกลับสำหรับบทความ : สื่อความหมายตรงตัวนะครับ ดังนั้นควรเลือก "บทความใหม่มีลิงก์ย้อนกลับ"
  • รูปแบบเวลาในส่วนความคิดเห็น : เลือกรูปแบบเวลาตามที่ชอบใจได้เลยครับ
  • ข้อความของฟอร์มความคิดเห็น : คือส่วนที่ให้เราเติมข้อความ หรือประโยค แล้วจะแสดงเหนือหน้าต่างแสดงความคิดเห็น สามารถดูตัวอย่างตรงนี้ บนภาพด้านบนที่ผมวางไว้เหนือคำอธิบายนี้นะครับ


  • การจัดการความคิดเห็น : เป็นส่วนที่ผู้สร้างบล็อกอยากจะตรวจสอบ ความคิดเห็นของผู้มาแสดงความคิดเห็น หรือไม่ ดังนั้นจึงมีให้เราเลือก 3 หัวข้อย่อยคือ 1. ทุกครั้ง (หมายถึงเวลามีการแสดงความคิดเห็น ก็จะต้องส่งมาให้เจ้าของบล็อกตรวจสอบก่อน โดยส่งมาทางอีเมล์ ที่ได้กรอกไว้ตรงที่ช่องเติมข้อความว่า "ที่อยู่อีเมล") 2. เฉพาะบทความที่เก่ากว่า (จำนวน) วัน (เป็นการส่งความคิดเห็นสำหรับบทความที่เคยเขียนไปแล้วกี่วัน ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะกรอกตัวเลขไปกี่วันครับ เช่น เคยเขียนบทความไว้แล้วก่อนหน้า 1 สัปดาห์ แล้วเราลงไว้ 4 วัน เมื่อมีคนมาแสดงความคิดเห็นกับบทความที่ลงมาแล้ว 7 วัน ก็จะส่งมาให้เราได้ตรวจสอบก่อนครับ) 3. ไม่ (ก็คือไม่ต้องตรวจสอบความคิดเห็นเลย เมื่อมีคนแสดงความมคิดเห็น ก็โชว์เดี๋ยวนั้นเลยครับ)
  • แสดงการตรวจสอบคำสำหรับความคิดเห็นหรือไม่ : เป็นส่วนที่ควรตอบว่า "ใช่" เลยนะครับ เพราะว่าจะเป็นการป้องกันพวก robot ที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็นมั่วซั่ว มาขายยาไวอากร้าบ้าง มาขายสินค้า MLM บ้าง เป็นต้นครับ
  • แสดงรูปภาพโปรไฟล์บนความคิดเห็นหรือไม่ : ความหมายตรงตัวครับ ติ๊กหน้าช่อง "ใช่" ไว้ก่อนครับ


  • อีเมลสำหรับแจ้งเตือนเมื่อมีความคิดเห็นใหม่ : ผมแนะนำว่าควรใส่อีเมล์ในช่องว่างนะครับ และเมื่อมีคนมาแสดงความคิดเห็น ระบบของ Blogger จะส่ง "ความคิดเห็น" มาให้เราได้ทราบ ได้รับรู้กันครับ แต่ว่าไม่ได้ตรวจสอบอะไรนะครับ คือเหมือนแจ้งให้เราดูเฉยๆ ครับ

ภาพนี้ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า เหนือหน้าต่างแสดงความคิดเห็นจะโชว์ประโยค "เชิญเพื่อนๆ แสดงความคิดเห็นของข่าว หรือวีดีโอนะครับ" และตรงที่ตำแหน่ง "แสดงความคิดเห็นในฐานะ" จะเห็นว่ามีให้เลือกแสดงฐานะหลายฐานะ แต่ถ้าต้องแสดงได้หมดแบบนี้ ต้องเลือกในหัวข้อ "ใครสามารถแสดงความคิดเห็น" ว่า "ทุกคน" ตามที่ผมแนะนำไว้ข้างต้นบทความนะครับ
.
ครับก็จบบทความเรื่อง "การตั้งค่า" ส่วน "ข้อคิดเห็น" เรียบร้อยยาวหน่อยนะครับ ตอนหน้าพบกับเรื่องการจัดการ "เก็บเข้าคลังบทความ" กันครับ สั้นๆ ครับ ไม่ยาวเท่าบทความนี้ครับ
.

ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
(ผู้ทุพพลภาพมืออาชีพ)
Follow me on Twitter
Visit me on Facebook

บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับแรก